รายละเอียดสินค้า

ข้อควรระวัง:

1. คลุมพลาสติกโรงเรือนให้ตึงและยึดพลาสติกกับโรงเรือนด้วยคลิปล็อคโรงเรือนขนาด 3/4 นิ้ว (6 หุน) (เพื่อป้องกันน้ำขังและลดการเสียดสีของพลาสติกกับโครงโรงเรือน)
2. ยึดโรงเรือนด้วยสมอบกเพื่อความมั่นคง

เหมาะสำหรับ:

• การปลูกพืชในบ้าน
• การปลูกพืชผักสวนครัว
• สร้างพื้นที่ปลูกพืชในพื้นที่จำกัด

การเตรียมพื้นที่สำหรับติดตั้งโรงเรือนปลูกพืช
 

เลือกสถานที่ที่เหมาะสม:

• แสงแดด: ควรเลือกพื้นที่ที่ได้รับแสงแดดเพียงพอ โดยเฉพาะแสงแดดยามเช้าที่ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของพืช 
• ทิศทาง: ตั้งโรงเรือนในทิศทางทิศเหนือและใต้ เพื่อให้พืชได้รับแสงแดดและทิศทางลมได้อย่างเต็มที่ 

ปรับสภาพพื้นที่:

• พื้นดิน: ปรับหน้าดินให้เรียบและมั่นใจว่า ดินมีความหนาแน่นมาก ไม่ยุบตัวหรือร่วนซุยจนไม่สามารถทำการปักอะไรลงไปได้ 
• การระบายน้ำ: ตรวจสอบระบบการระบายน้ำของพื้นที่ เพื่อป้องกันน้ำขังที่อาจส่งผลเสียต่อรากพืช

เตรียมอุปกรณ์และวัสดุ:

• วัสดุคลุมดิน: เตรียมวัสดุคลุมดิน เช่น ฟางข้าว เปลือกถั่ว ตองตึง หญ้าแฝก หรือพลาสติกคลุมดิน เพื่อรักษาความชุ่มชื้นและป้องกันวัชพืช 
• อุปกรณ์เสริม: เตรียมอุปกรณ์เสริม เช่น โต๊ะสำหรับทำงานปลูก อ่างหรือถาดผสมดินปลูก และพื้นที่วางต้นไม้ที่นำมาเพาะหรือย้ายปลูก

ตรวจสอบสภาพแวดล้อม:

• ลม: หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีลมแรงเกินไป ซึ่งอาจทำให้โครงสร้างของโรงเรือนเสียหาย
• สิ่งกีดขวาง: ตรวจสอบว่าพื้นที่ไม่มีสิ่งกีดขวาง เช่น สายไฟฟ้า ต้นไม้ใหญ่ หรือสิ่งปลูกสร้างอื่น ๆ ที่อาจรบกวนการติดตั้งและการใช้งานของโรงเรือน

การดูแลรักษาโรงเรือนปลูกพืช

1. ทำความสะอาดโรงเรือน

• การทำความสะอาดภายในและภายนอก: ควรทำความสะอาดโรงเรือนทุก ๆ 3 เดือน หรือหลังจากการเก็บเกี่ยว เพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อโรคและแมลงศัตรูพืชที่อาจจะตกค้างอยู่
• เช็ดถูฝุ่นและสิ่งสกปรก: ใช้ผ้าเปียกหรือฟองน้ำชุบน้ำผสมกับน้ำยาล้างที่อ่อน ๆ เช็ดทำความสะอาดผ้าคลุมและโครงสร้างเพื่อให้ดูใหม่และไม่เกิดการสะสมของฝุ่นหรือคราบต่าง ๆ ที่อาจส่งผลต่อการกรองแสงของผ้าคลุม

2. ตรวจสอบโครงสร้าง

• ตรวจสอบโครงเหล็ก: เช็คความมั่นคงของโครงเหล็กทุกชิ้น โดยเฉพาะข้อต่อและสกรูต่าง ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการหลุดหรือสึกหรอที่อาจทำให้โรงเรือนไม่มั่นคง
• ตรวจสอบวัสดุคลุม: ตรวจสอบผ้าคลุมพลาสติกหรือผ้า PE ว่ายังไม่ขาดหรือเสื่อมสภาพจากการใช้งาน หากพบการเสียหายให้เปลี่ยนทันที เพื่อป้องกันการสูญเสียประสิทธิภาพในการกรองแสงและป้องกันสภาพอากาศ

3. การรักษาความสะอาดพื้นที่ภายใน

• การกำจัดวัชพืช: ควรทำความสะอาดพื้นที่ภายในโรงเรือนโดยการกำจัดวัชพืชและเศษวัสดุต่าง ๆ ที่ไม่จำเป็นออกไป เพื่อลดการแข่งแย่งสารอาหารและแสงสว่างกับพืชที่ปลูก
• รักษาความชื้น: ควรรักษาระดับความชื้นให้เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของพืช ปรับการรดน้ำและการระบายอากาศให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมภายในโรงเรือน